เหล็ก ST52-3 คืออะไร? เทียบเท่าเหล็กมาตรฐาน S355 จริงไหม?

เหล็ก ST52-3 คือเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำคุณภาพสูงที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมก่อสร้างและวิศวกรรมหนัก โดยมี คุณสมบัติเทียบเท่ากับเหล็ก S355 ในมาตรฐานยุโรป (EN Standard) ด้วยความแข็งแรงสูง ทนทานต่อแรงดึงและแรงกระแทก รวมถึงทนความร้อนและเชื่อมง่าย จึงเป็นวัสดุอเนกประสงค์ที่เหมาะกับการใช้งานหลากหลายประเภท

คุณสมบัติของเหล็ก ST52-3

ความแข็งแรงสูง (High Strength)

เหล็ก ST52-3 มีค่า Yield Strength ประมาณ 355 MPa ซึ่งสามารถรองรับแรงดึงและน้ำหนักได้มาก จึงเหมาะกับงานโครงสร้างหรือชิ้นส่วนที่ต้องรับแรงมาก

ยืดหยุ่นและทนแรงกระแทก

โครงสร้างของเหล็กมีความเหนียวสูง จึงสามารถรับแรงกระแทก การบิด หรือการดัดได้ดีโดยไม่เสียรูป

ทนการกัดกร่อน (Corrosion Resistance)

แม้จะไม่ใช่เหล็กสแตนเลส แต่ ST52-3 ก็มีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป โดยเฉพาะเมื่อใช้งานในโครงสร้างภายนอก

เชื่อมได้ง่าย

สามารถเชื่อมติดได้โดยไม่ต้องใช้เทคนิคพิเศษ และยังสามารถตัด เจาะ ขึ้นรูปได้ตามต้องการ

ทนความร้อนสูง

เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาวะที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง เช่น เครื่องจักรหรืออุปกรณ์อุตสาหกรรม

เหล็ก ST52-3 เหมาะกับงานอะไรบ้าง?

  • งานโครงสร้างก่อสร้าง ใช้สำหรับทำโครงสร้างอาคาร เสา คาน สะพาน หรือโครงเหล็กต่าง ๆ ที่ต้องการความแข็งแรงและทนต่อแรงดึงได้สูง
  • งานชิ้นส่วนเครื่องจักร สามารถนำมาทำ เพลาขับ, แกนหมุน, เฟือง หรือชิ้นส่วนที่ต้องรับแรงหมุนและแรงเสียดทานสูง
  • งานยานยนต์ ใช้ในส่วนโครงสร้างของรถยนต์หรือยานพาหนะ เช่น แชสซี, โครงเหล็กใต้ท้องรถ ที่ต้องทนต่อแรงกดและแรงกระแทก
  • งานท่อและอุปกรณ์ส่งของเหลว นิยมนำไปผลิตท่อส่งน้ำมัน, ก๊าซ หรือของเหลวในระบบแรงดันสูง เพราะทนแรงดันและอุณหภูมิได้ดี

คำถาม-คำตอบที่พบบ่อยเกี่ยวกับเหล็ก ST52-3

  1. เหล็ก ST52-3 เทียบเท่ากับเหล็กมาตรฐาน S355 จริงหรือไม่?
    จริงเหล็ก ST52-3 เป็นชื่อเรียกตามมาตรฐานเดิม (DIN Standard) และมี คุณสมบัติทางกลที่เทียบเท่า กับเหล็ก S355 ในมาตรฐานยุโรป (EN Standard) โดยทั้งสองชนิดมีค่า Yield Strength ที่ประมาณ 355 MPa ซึ่งจัดเป็นเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำที่มีความแข็งแรงสูง เหมาะสำหรับงานวิศวกรรมหนัก
  2. เหล็ก ST52-3 เหมาะกับการนำไปใช้ทำโครงสร้างสะพานหรืออาคารสูงไหม?
    เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากเหล็ก ST52-3 มี ค่า Yield Strength ที่สูง สามารถรองรับแรงดึงและน้ำหนักได้มาก จึงนิยมใช้สำหรับทำโครงสร้างหลักของอาคารสูง, สะพาน, หรือโครงเหล็กขนาดใหญ่ที่ต้องการความแข็งแรงและความทนทานเป็นพิเศษ
  3. การเชื่อมเหล็ก ST52-3 มีความยากหรือง่ายกว่าเหล็กทั่วไปอย่างไร?
    การเชื่อมเหล็ก ST52-3 ทำได้ ง่ายเพราะมีปริมาณคาร์บอนที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้สามารถเชื่อมติดได้โดยไม่ต้องใช้เทคนิคหรือลวดเชื่อมพิเศษมากนัก ซึ่งเป็นข้อดีที่ช่วยให้งานประกอบโครงสร้างทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  4. เหล็ก ST52-3 ทนทานต่อการเกิดสนิมหรือไม่?
    เหล็ก ST52-3 มี ความทนทานต่อการกัดกร่อนที่ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป แต่เนื่องจากไม่ใช่เหล็กสแตนเลส หากนำไปใช้งานในพื้นที่ที่สัมผัสความชื้นหรือสารเคมีบ่อยๆ ก็ยังคงต้องมีการ เคลือบสีหรือสารป้องกันสนิม เพิ่มเติม เพื่อยืดอายุการใช้งานและป้องกันการเกิดสนิมในระยะยาว

เหล็ก ST52-3 ตอบโจทย์งานหนัก งานทน งานอุตสาหกรรม

  • เทียบเท่าเหล็ก S355 ตามมาตรฐานยุโรป
  • มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นในตัวเดียว
  • ใช้งานได้หลากหลาย ทั้ง โครงสร้าง, เครื่องจักร, ยานยนต์, งานท่อ
  • เชื่อมง่าย ตัดแต่งง่าย และมีอายุการใช้งานยาวนาน

หากคุณกำลังมองหาเหล็กคุณภาพที่แข็งแรง ทนทาน เชื่อถือได้ เหล็ก ST52-3 คือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับงานอุตสาหกรรมและโครงสร้างที่คุณไว้วางใจได้

สนใจสั่งซื้อเหล็ก ST52-3 หรือขอใบเสนอราคา? ไม่ว่าคุณจะต้องการเหล็ก ST52-3 สำหรับงานโครงสร้าง เครื่องจักร หรือระบบท่อแรงดันสูง ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษาและจัดส่งเหล็กคุณภาพถึงหน้างานอย่างมืออาชีพ

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ :  www.pandpsteel.co.th
ติดตาม Facebook : https://www.facebook.com/pandpsteel
เบอร์โทร : 02-743-5911
Line ID : @pandpsteel (เติม @ ด้านหน้าด้วยนะครับ)
Line ID : https://lin.ee/9lRXvtZ